โครงงาน
วิชา การงานอาชีพและเทคโนโลยี
เรื่อง ภูมิปัญญาท้องถิ่น(การทำกรงนก)
จัดทำโดย
นาย ปริญช์ นาควรรณ์ เลขที่10
นางสาวรัตติกาล หกราโชติ เลขที่ 30
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา2555
เสนอ
อาจารย์ พรทิพย์ มหันตมรรค
วิทยาลัยนาฏศิลปนครศรีธรรมราช
สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กระทรวงวัฒนธรรม
คำนำ
รายงานเรื่องโครงงานภูมิปัญญานี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยีมี
จุดประสงค์เพื่อศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับภูมิปัญญาการทำกรงนก
ซึ่งรายงานฉบับนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับประวัติความเป็นมา วิธีการทำและวิธีการดำเนินงาน
การศึกษาค้นคว้าเรื่องโครงงานภูมิปัญญาเล่มนี้ข้าพเจ้าได้วางแผนการดำเนินงานการศึกษาค้นคว้าเป็นอย่างดีศึกษาจากเว็บไซต์
การจัดทำรายงานฉบับนี้สำเร็จตามวัตถุประสงค์ไปด้วยดี
ข้าพเจ้าขอขอบพระคุณคณะกลุ่มแม่บ้านพ่อบ้านการทำกรงนกท่านได้ให้คำแนะนำการเขียนรายงานจนทำให้รายงานฉบับนี้สมบูรณ์ในด้านแผนปฏิบัติศึกษาการทำรายงาน
การเรียบเรียงเนื้อหา การเขียนบรรณานุกรมได้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ข้าพเจ้าหวังว่า
เนื้อหาในรายงานฉบับนี้ที่ได้เรียบเรียงมาจะเป็นประโยชน์ต่อผู้สนใจเป็นอย่างดี
หากมีสิ่งใดในรายงานฉบับนี้จะต้องปรับปรุง
ข้าพเจ้าขอน้อมรับในข้อชี้แนะและจะนำไปแก้ไขหรือพัฒนาให้ถูกต้องสมบูรณ์ต่อไป
ผู้จัดทำ
นายปริชญ์ นาควรรณ์
นางสาวรัตติกาล โหราโชติ
สารบัญ
เรื่อง หน้า
บทที่ 1 บทนำ
1.แนวคิดที่มาและความสำคัญ 1
2.วัตถุประสงค์ 1
3.หลักการและทฤษฎี 2
4.ขอบเขตของโครงงาน 2
5.สถานที่ไปทำโครงงาน 2
6.ผลประโยชน์คาดว่าจะได้รับ 3
บทที่ 2
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
1.ประวัติความเป็นมาของกรงนก 4-5
บทที่ 3
วิธีการดำเนินงาน
1.วิธีดำเนินการศึกษาค้นคว้า 6
2.อุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิต 7-8
บทที่ 4 ผลการศึกษา
1.ขั้นตอนการผลิต 9-12
บทที่ 5 สรุป
อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ
1.สรุปอภิปรายผล 13
2.ประโยชน์ที่ได้รับ 13-14
3.ข้อเสนอแนะทั่วไป 14
4.ข้อเสนอแนะเพื่อการทำวิจัยครั้งต่อไป 14
อ้างอิง 15
บทที่
1
บทนำ
แนวคิดที่มาและความสำคัญ
ในปัจจุบันนี้
เด็กๆและเยาวชนรวมถึงผู้ใหญ่ในสังคมภาคใต้ไม่ค่อยที่จะสนใจหรือให้ความสำคัญเกี่ยวกับภูมิปัญญาภาคใต้สักเท่าไหร่
จึงทำให้ดิฉันมีความสนใจที่จะทำโครงงานเรื่อง การทำกรงนก เพื่อให้ทุกๆคนได้มีงานฝีมือเพิ่มขึ้นและได้นำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันและได้นำไปประกอบอาชีพได้
วัตถุประสงค์
1.จัดทำขึ้นเพื่อให้ประชาชนได้มีรายได้เสริมเพิ่มขึ้น
2.ได้นำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้
3.เพื่อรักษาภูมิปัญญาท้องถิ่นให้กับคนรุ่นหลังๆได้
หลักการและทฤษฎี
สืบเนื่องมาจากความนิยมเลี้ยงนก2ชนิด คือ
นกเขาชวาและนกกรงหัวจุกไว้ฟังเสียงขันและนำมาประชันเสียงกันในสนามแข่งมีผลทำให้เกิดความต้องการที่จะได้กรงนกดีได้กรงสวยงามได้นกตัวเก่งได้อาศัยเป็นความภาคภูมใจเป็นหน้าตาของเจ้าของนกและยังเป็นเสหมือนหนึ่งเฟอร์นิเจอร์ประดับบ้านอีกด้วย
ขอบเขตของโครงงาน
1.ศึกษาค้นคว้าจากอินเตอร์เน็ต
2.สอบถามจากผู้รู้คือ นายห้าสัน
บิลหมัด สถานที่ตั้งกลุ่ม บ้านเลขที่
40 หมู่ที่10 ตำบลคลองแห
อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา 90110
สถานที่ไปทำโครงงาน
บ้านเลขที่ 40 หมู่ที่10
ตำบลคลองแห อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา 90110
ผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1.ได้ทำเป็นอาชีพเสริมเพื่อหารายได้เพิ่มขึ้น
2.ได้รู้จักงานฝีมือได้มากขึ้นกว่าเดิม
3.ได้รักษาภูมิปัญญาท้องถิ่นนี้ไว้เพื่อลูกๆหลานๆรุ่นหลังๆ
4.ได้ให้นกมีที่อยู่อาศัยที่สบายๆ
5.เพื่อนำความรู้ที่ได้รับไปเผยแพร่ให้แก่ผู้ที่สนใจ
6.เพื่อฝึกทำงานเป็นกลุ่ม
บทที่2
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
ประวัติความเป็นมาของกรงนก
การทำกรงนกถือเป็นภูมิปัญญาที่ชุมชนหนองทรายหมู่ที่10 ตำบลคลองแห ได้มีการริเริ่ม ทำกรงนก และรวมกลุ่มในการทำกรงนกขึ้นมา
โดยในตอนแรกๆมีการทำกันเพียงไม่กี่ครัวเรือนเท่านั้น
การทำเริ่มแรกเป็นการทำเพื่อใช้เลี้ยงนก ภายใน ครัวเรือน โดยเริ่มทำครั้งแรกเมื่อ 40
ปีที่แล้วผู้บุกเบิกการทำกรงนกเป็นคนแรก คือ คนน้ำน้อยเดิมชื่อ
หอมเป็นคนไทยพุทธต่อมาเป็นคนมุสลิม และย้ายมาอยู่ที่ หมู่ที่ 10 ตำบลคลองแหชาวบ้านในหมู่บ้านจึงเรียกว่าเจ๊ะหอม
และมีการพัฒนาภูมิปัญญากรงนกของชุมชนหนองทรายหมู่ที่10 แบ่งได้3
ยุค ดั้งนี้
ยุคที่1 ปี พ.ศ. 2510 เป็นช่วงที่เทคโนโลยียังไม่เจริญก้าวหน้าจึงต้องใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านในการเจาะรูกรงนก
คือการนำก้านร่มเสียบกับไม้ผัดลนไฟผัดกับมือเพื่อเจาะรู จะต้องทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ
ซึ่งใช้เวลานานมากในการทำเนื่องจากไม่มีเครื่องมือทุ่นแรง
ยุคที่2 ปีพ.ศ. 2520 ยุคนี้เริ่มมีเครื่องมือทุ่นแรงบ้างแล้ว
คือมีการใช้สว่านมือหมุนเพื่อเจาะรู
ยุคที่3 เป็นยุคปัจจุบัน ผู้ใหญ่บ้านหมัด ณ ชุมชนหนองทราย
เริ่มเห็นและนำเครื่องเจาะรูมาใช้กันอย่างแพร่หลายในหมู่บ้าน
ปัจจุบันนี้มีการทำกรงนกกันมาก
เพราะมีลูกค้ามารับกรงนกถึงที่บ้าน โดยลูกค้าจะโทรมาสั่งว่าต้องการขนาดและรูปแบบใด
เมื่อครบกำหนดก็จะมารับสินค้า
บางครั้งก็จะสั่งสินค้าเพิ่มในวันที่มารับสินค้าว่างวดต่อไป ต้องการสินค้าแบบไหน
และเมื่อพ่อค้าคนกลางเริ่มให้ทำ และส่งสินค้าให้ลองไปขายดู
พอเริ่มขายได้ตลาดยอมรับก็เลยทำเป็นอาชีพปัจจุบันคนในชุมชนบ้านหนองทรายเกือบ 90% ทำกรงนกเป็นอาชีพหลัก
บทที่3
วิธีการดำเนินงาน
วิธีดำเนินการศึกษาค้นคว้า
การศึกษาครั้งนี้ผู้วิจัยได้ดำเนินการศึกษาค้นคว้าตามลำดับดังต่อไปนี้
1. ขั้นศึกษาข้อมูล
1.1
ขั้นสำรวจและศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้อง โดยการสำรวจและศึกษาเอกสารที่ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องการทำกรงนก
1.2 ศึกษาวัตถุดิบและส่วนประกอบการทำกรง
2. ขั้นเก็บรวบรวมข้อมูล
2.1
ได้มีการเก็บรวมรวมข้อมูลจากการสำรวจและศึกษาจากเอกสารที่ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องการทำกรงนก
2.2 ได้เก็บรวบรวมข้อมูลจากการได้สังเกต
และสัมภาษณ์
3. ขั้นวิเคราะห์ข้อมูล
นำข้อมูลที่เก็บรวบรวมได้มาศึกษา
และวิเคราะห์ตามวัตถุประสงค์และเรียบเรียงนำเสนอในเชิงความเรียง
อุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิต
2. หวาย
3.ลวด
4. กิ่งไม้สำหรับนกเกาะ
5. แชล็ค
บทที่4
ผลการศึกษา
ขั้นตอนการผลิต
1.
ขดหวาย ม้วนไว้ประมาณ 2-3 วัน
2.
ขดตัดตามขนาดที่ต้องการ
3.
ใช้สว่าน/เครื่องเจาะ เจาะรูที่ขดหวาย
4.
นำไม้ไผ่มาเหลาเป็นซี่
5. ใช้ซี่ไม้ไผ่ใส่ในรูขดหวาย บน-ล่าง
6. นำหัวกรงที่ทำไว้ใส่ตรงจุดหัวกรง
7. ตกแต่งใส่ที่สำหรับนกเกาะ
8.ลงวานิต/แชล็ค ทาไม้
9. อาจตกแต่งเป็นรูปแบบอื่น ๆ ตามที่ต้องการ
10.เสร็จสมบูรณ์
บทที่ 5
สรุป
อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ
การวิจัยเรื่อง
การทำกรงนก เพื่อมาศึกษาวิธีการทำกรงนก ทำให้ได้รู้ถึงรูปแบบวิธีการทำ
และวัฒนธรรมการการอนุรักษ์ของชุมชนในท้องถิ่นภาคใต้อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่สมควรรับการส่งเสริม
และอนุรักษ์ตลอดไป
จากการศึกษาพบว่า กรงนก เป็นงานฝีมือที่ทำกันมาตั้งแต่โบราณ
และการทำกรงนกขึ้นมา เพื่อใช้เลี้ยงนก ภายใน ครัวเรือน
ใช้ในการประดับบ้านเรือนและได้มีการทำขายอีกด้วยการทำกรงนก
จึงเป็นอีกภูมิปัญญาหนึ่งที่เราควร อนุรักษ์ถึงวัฒนธรรมของชุมชน
ที่ได้สะท้อนความเป็นอยู่ของชาวบ้านในท้องถิ่นจังหวัดสงขลาตามที่ผู้วิจัยได้ทำการศึกษา
ประโยชน์ที่ได้รับ
1.
ทราบถึงวิธีการทำกรงนกของชาวภาคใต้ (ชุมชนหนองทราย)
2.
เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ชุมชนมีบทบาทในการพัฒนาเศรษฐกิจสังคม
และรักษาขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรมของท้องถิ่น
3.ทราบว่าภูมิปัญญาใดที่ทำให้การทำกรงนก (ชุมชนหนองทราย) ขายดีมาจนถึงทุกวันนี้
ข้อเสนอแนะ
การวิจัยเรื่อง การทำกรงนกเพื่อประกอบการศึกษาข้อมูล
ผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะดังต่อไปนี้
1. ข้อเสนอแนะทั่วไป
1.1
ควรจะนำผลจากการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ไปปรับใช้ หรือบอกต่อคนในชุมชนอื่นๆที่สนใจเพื่อ อนุรักษ์
และสืบสานต่อไป
1.2
ควรจะนำผลการศึกษาค้นคว้าในครั้งนี้เผยแพร่ให้กับบุคคลที่สนใจ เพื่อนำไปพัฒนาปรับปรุง เพื่อให้เข้ากับชุมชน
2. ข้อเสนอแนะเพื่อการทำวิจัยครั้งต่อไป
2.1 ควรจะได้ศึกษา รูปแบบวิถีชีวิตว่าการประกอบอาชีพเป็นอย่างไร
และควรจะศึกษาข้อแตกต่างจากหลายๆชุมชนเพิ่มเติม
*********************************************
ปริชญ์ นาควรรณ์
รัตติกาล หกราโชติ